٢١

[21] และทรัพย์เชลยอันอื่นอีกที่พวกเจ้าไม่มีกำลังที่จะเอาชนะมันได้ แต่อัลลอฮฺทรงล้อมพวกมันไว้แล้ว (คืออาณาจักรเปอร์เซียและโรมันตะวันออก) และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งอย่าง

Society of Institutes and Universities

٢٢
[22] และถ้าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ต่อสู้กับพวกเจ้า พวกเขาก็จะผินหลังกลับอย่างแน่นอน แล้วพวกเขาจะไม่พบผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือ

Society of Institutes and Universities

٢٣
[23] นั่นคือแนวทางของอัลลอฮฺแก่บรรดาผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแต่กาลก่อน และเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในแนวทางของอัลลอฮฺ

Society of Institutes and Universities

٢٤
[24] และพระองค์คือผู้ทรงยับยั้งมือของพวกเขาจากพวกเจ้า และมือของพวกเจ้าจากพวกเขา (มิให้มีการสู้รบกัน) ที่หุบเขานครมักกะฮฺ (ที่ฮุดัยบียะฮฺ)หลังจากที่พระองค์ได้ทรงให้พวกเจ้ามีชัยชนะเหนือพวกเขาและอัลลอฮฺทรงรู้เห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

Society of Institutes and Universities

٢٥
[25] พวกเขาคือบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และปิดกั้นพวกเจ้าให้หันห่างจากมัสยิดอัลฮะรอมและการเชือดสัตว์พลีที่ถูกกักกันไว้มิให้บรรลุสู่ที่เชือดของมัน และหากมิใช่เพราะมีบรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิง ซึ่งพวกเจ้าไม่รู้จักพวกเขา พวกเจ้าก็จะฆ่าพวกเขา แล้วก็จะก่อให้เกิดโทษแก่พวกเจ้าเพราะพวกเขา โดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ เพื่ออัลลอฮฺจะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์เข้าอยู่ในความเมตตาของพระองค์ หากพวกเขาแยกออกจากกัน แน่นอน เราก็จะลงโทษบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่พวกเขา ซึ่งการลงโทษอันเจ็บปวด

Society of Institutes and Universities

٢٦
[26] ขณะที่พวกปฏิเสธศรัทธาได้ทำให้ความหยิ่งยโสมีขึ้นในจิตใจของพวกเขาซึ่งเป็นความหยิ่งยโส ในสมัยแห่งความงมงาย อัลลอฮฺจึงประทานความเงียบสงบของพระองค์ให้แก่รอซูลของพระองค์ และแก่บรรดาผู้ศรัทธา และทรงให้พวกเขาตั้งมั่นอยู่บนคำกล่าวแห่งความยำเกรง (คำกล่าวชาฮาดะฮฺ) โดยที่พวกเขามีสิทธิยิ่งต่อคำกล่าวนี้ และเหมาะสมคู่ควรยิ่งอีกด้วย และอัลลอฮฺนั้นทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

Society of Institutes and Universities

٢٧
[27] โดยแน่นอนอัลลอฮฺได้ทรงทำให้ความฝันนั้นสมจริงแก่รอซูลของพระองค์ด้วยความจริงแน่นอน พวกเจ้าจะได้เข้าสู่มัสยิดอัลฮะรอมอย่างปลอดภัยหากอัลลอฮฺทรงประสงค์ (อินชาอัลลอฮฺ) โดย (บางคน) โกนผมของพวกเจ้าและ (อีกบางคน) ตัดผม พวกเจ้าอย่าได้หวาดกลัว เพราะอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ ดังนั้น พระองค์จึงได้ทรงกำหนดชัยชนะอื่นจากนั้น ซึ่งชัยชนะอันใกล้นี้

Society of Institutes and Universities

٢٨
[28] พระองค์คือผู้ทรงส่งรอซูลของพระองค์พร้อมด้วยแนวทางที่ถูกต้องและศาสนาแห่งสัจธรรม เพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนา (ของพระองค์) นั้นประจักษ์แจ้งเหนือศาสนาอื่นทั้งมวล และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน

Society of Institutes and Universities

٢٩
[29] มุฮัมมัดเป็นรอซูลของอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขาเป็นผู้เข้มแข็งกล้าหาญต่อพวกปฏิเสธศรัทธา เป็นผู้เมตตาสงสารระหว่างพวกเขาเอง เจ้าจะเห็นพวกเขาเป็นผู้รูกั๊วะ ผู้สุญูดโดยแสวงหาคุณความดีจากอัลลอฮฺและความโปรดปราน (ของพระองค์) เครื่องหมายของพวกเขาอยู่บนใบหน้าของพวกเขา เนื่องจากร่องรอยแห่งการสุญูด นั่นคืออุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในอัตเตารอต และอุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในอัลอินญีลนั้นประหนึ่งเมล็ดพืชที่งอกหน่อหรือกิ่งก้านของมันออกมา แล้วทำให้มันงอกงาม แล้วมันก็เติบโตแข็งแรง และทรงตัวอยู่ได้บนลำต้นของมัน นำความปลื้มปิติมาให้แก่ผู้หว่าน เพื่อที่พระองค์จะก่อความโกรธแค้นแก่พวกปฏิเสธศรัทธาเพราะพวกเขา (มุสลิมีน)และอัลลอฮฺทรงสัญญาบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายในหมู่พวกเขาว่า จะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันใหญ่หลวง

Society of Institutes and Universities

Notes placeholders