وَإِذَا
لَقُواْ
ٱلَّذِينَ
ءَامَنُواْ
قَالُوٓاْ
ءَامَنَّا
وَإِذَا
خَلَوۡاْ
إِلَىٰ
شَيَٰطِينِهِمۡ
قَالُوٓاْ
إِنَّا
مَعَكُمۡ
إِنَّمَا
نَحۡنُ
مُسۡتَهۡزِءُونَ
١٤

[14] และเมื่อพวกเขาพบบรรดาผู้ศรัทธาพวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว และเมื่อพวกเขาได้ร่วมอยู่กับบรรดาหัวโจกของพวกเขาแต่ลำพัง พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริงเรายังอยู่กับพวกท่าน ที่จริงเราเป็นแต่เพียงผู้เย้ยหยันเท่านั้น

— Society of Institutes and Universities

2:15

ٱللَّهُ

يَسۡتَهۡزِئُ

بِهِمۡ

وَيَمُدُّهُمۡ

فِي

طُغۡيَٰنِهِمۡ

يَعۡمَهُونَ

١٥

[15] อัลลอฮฺจะทรงเย้ยหยันพวกเขา และจะทรงยืดเวลาให้พวกเขาระเหเร่ร่อนอยู่ในการละเมิดของพวกเขาต่อไป

— Society of Institutes and Universities

2:16

أُوْلَٰٓئِكَ

ٱلَّذِينَ

ٱشۡتَرَوُاْ

ٱلضَّلَٰلَةَ

بِٱلۡهُدَىٰ

فَمَا

رَبِحَت

تِّجَٰرَتُهُمۡ

وَمَا

كَانُواْ

مُهۡتَدِينَ

١٦

[16] ชนเหล่านี้คือผู้ที่ซื้อทางหลงผิด ด้วยทางที่ถูก ดังนั้น การค้าของพวกเขาจึงไม่ได้กำไรและทั้งพวกเขาก็ไม่เคยเป็นผู้รับเอาทางที่ถูกต้อง

— Society of Institutes and Universities

2:17

مَثَلُهُمۡ

كَمَثَلِ

ٱلَّذِي

ٱسۡتَوۡقَدَ

نَارٗا

فَلَمَّآ

أَضَآءَتۡ

مَا

حَوۡلَهُۥ

ذَهَبَ

ٱللَّهُ

بِنُورِهِمۡ

وَتَرَكَهُمۡ

فِي

ظُلُمَٰتٖ

لَّا

يُبۡصِرُونَ

١٧

[17] อุปมาพวกเขานั้น ดังผู้ที่จุดไฟขึ้นครั้งเมื่อไฟได้ให้แสงสว่างแก่สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา อัลลอฮฺก็ทรงนำเอาแสงสว่างของพวกเขาไปและปล่อยพวกเขาไว้ในบรรดาความมืด ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะมองเห็นได้

— Society of Institutes and Universities

2:18

صُمُّۢ

بُكۡمٌ

عُمۡيٞ

فَهُمۡ

لَا

يَرۡجِعُونَ

١٨

[18] เขาเหล่านั้นเป็นคนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะกลับมาได้

— Society of Institutes and Universities

2:19

أَوۡ

كَصَيِّبٖ

مِّنَ

ٱلسَّمَآءِ

فِيهِ

ظُلُمَٰتٞ

وَرَعۡدٞ

وَبَرۡقٞ

يَجۡعَلُونَ

أَصَٰبِعَهُمۡ

فِيٓ

ءَاذَانِهِم

مِّنَ

ٱلصَّوَٰعِقِ

حَذَرَ

ٱلۡمَوۡتِۚ

وَٱللَّهُ

مُحِيطُۢ

بِٱلۡكَٰفِرِينَ

١٩

[19] หรือดังฝนที่หลั่งลงมาจากฟากฟ้า โดยที่ในฝนนั้นมีทั้งบรรดาความมืด ฟ้าคำรณ และฟ้าแลบ พวกเขาจึงเอานิ้วมือของพวกเขาอุดหูไว้เนื่องจากฟ้าผ่า ทั้งนี้เพราะกลัวความตาย และอัลลอฮฺนั้นทรงล้อม พวกปฏิเสธการศรัทธาเหล่านั้นไว้แล้ว

— Society of Institutes and Universities

2:20

يَكَادُ

ٱلۡبَرۡقُ

يَخۡطَفُ

أَبۡصَٰرَهُمۡۖ

كُلَّمَآ

أَضَآءَ

لَهُم

مَّشَوۡاْ

فِيهِ

وَإِذَآ

أَظۡلَمَ

عَلَيۡهِمۡ

قَامُواْۚ

وَلَوۡ

شَآءَ

ٱللَّهُ

لَذَهَبَ

بِسَمۡعِهِمۡ

وَأَبۡصَٰرِهِمۡۚ

إِنَّ

ٱللَّهَ

عَلَىٰ

كُلِّ

شَيۡءٖ

قَدِيرٞ

٢٠

[20] สายฟ้าแลบแทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไปคราใดที่มันให้แสงสว่างแก่พวกเขา พวกเขาก็เดินไปในแสงสว่างนั้น และเมื่อมันมืดลงแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน และหากอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว แน่นอนก็ทรงนำเอาหูและตาของพวกเขาไปแล้ว แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

— Society of Institutes and Universities

2:21

يَٰٓأَيُّهَا

ٱلنَّاسُ

ٱعۡبُدُواْ

رَبَّكُمُ

ٱلَّذِي

خَلَقَكُمۡ

وَٱلَّذِينَ

مِن

قَبۡلِكُمۡ

لَعَلَّكُمۡ

تَتَّقُونَ

٢١

[21] มนุษย์เอ๋ย! จงเคารพอิบาดะฮฺ พระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้า และบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง

— Society of Institutes and Universities

2:22

ٱلَّذِي

جَعَلَ

لَكُمُ

ٱلۡأَرۡضَ

فِرَٰشٗا

وَٱلسَّمَآءَ

بِنَآءٗ

وَأَنزَلَ

مِنَ

ٱلسَّمَآءِ

مَآءٗ

فَأَخۡرَجَ

بِهِۦ

مِنَ

ٱلثَّمَرَٰتِ

رِزۡقٗا

لَّكُمۡۖ

فَلَا

تَجۡعَلُواْ

لِلَّهِ

أَندَادٗا

وَأَنتُمۡ

تَعۡلَمُونَ

٢٢

[22] คือผู้ทรงให้แผ่นดินเป็นที่นอน และฟ้าเป็นอาคารแก่พวกเจ้า และทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วได้ทรงให้บรรดาผลไม้ออกมา เนื่องด้วยน้ำนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใด ๆ ขึ้น สำหรับอัลลอฮฺ โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่

— Society of Institutes and Universities

เคล็ดลับ: ลองนำทางด้วยctrlK